การดูแลรักษารถ

การดูแลรักษารถหลังจากการลุยน้ำท่วม

- ให้ล้างรถให้สะอาด ฉีดน้ำล้างล้อรถ ใต้ท้องรถเพื่อกำจัดเศษหิน ดิน ทราย ที่อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อการขับเคลื่อนและการควบคุมการขับขี่

- เปลี่ยนน้ำมันเกี่ยร์ เพราะอาจจะมีน้ำซึมเข้าไปในระบบเกียร์ ซึ่งอาจทำความเสียหายได้

- เช็คลูกปืนล้อ เพราะการแช่น้ำเป็นเวลานานอาจจะทำให้เกิดเสียงดังและความเสียหายได้

- ตรวจสอบพื้นพรมในรถ  เปิดผ้ายาง พรม เพื่อไล่ความชื้น และกลิ่นอับ ซึ่งอาจทำให้เกิดเชื้อราและกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้

- ตรวจสอบระบบต่าง ๆ ให้เรียบร้อยหรือเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็ค

- เมื่อพบข้อผิดปกติใด ๆ ควรปรึกษาช่างทันทีเพื่อลดความเสียหาย

ตรวจสอบความดันลมยางทุกๆเดือน 
            ความดันลมยางที่ถูกต้องช่วยลดความเสี่ยงในการสูญเสียการควบคุมรถยนต์ และยังช่วยไม่ให้ยางสึกก่อนเวลาอันควร และลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อโครงสร้างภายในของยาง 

คุณสามารถตรวจสอบความดันลมยาง แนะนำได้จาก

- คู่มือประจำรถจากผู้ผลิตรถยนต์

- ป้ายที่ติดข้างประตูด้านคนขับ

- ที่เก็บของด้านข้างคนขับ

- ด้านในของฝาถังน้ำมัน

แต่ไม่ใช่บนยาง ความดันลมยางที่ปรากฏอยู่บนแก้มยาง เป็นเพียงความดันลมยางสูงสุด

ฝาปิดวาล์วเติมลม ปกป้องคุณและยางของคุณ 
            วาล์วและชิ้นส่วนต่างๆ โดยมากผลิตจากยาง ดังนั้นจึงสามารถเสื่อมสภาพเมื่อเวลาผ่านไป คุณควรเปลี่ยนวาล์วและฝาปิดวาล์วใหม่เมื่อคุณซื้อยางใหม่ ดานวาล์วที่แตกลายงาหรือเสื่อมสภาพ สามารถพับงอตามแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ของล้อ เมื่อขับที่ความเร็วสูง อาจทำให้สูญเสียแรงดันลมยางระหว่างนั้น ฝาปิดวาล์วมีความสำคัญเช่นกัน เนื่องจากเป็นชิ้นส่วนหลักในการกักเก็บลมยาง และช่วยป้องกันฝุ่นหรือเศษสิ่งสกปรก

การดูแลและใช้ยางที่ถูกต้อง 
            มาตรการความปลอดภัยที่คุณทำได้ง่ายๆ และใช้เวลาไม่มาก คุณควรหมั่นตรวจสอบความลึกของร่องดอกยางอย่างสม่ำเสมอ และเปลี่ยนยางเมื่อยางสึกถึงเกณฑ์แล้ว เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่ายางจะให้ประสิทธิภาพในการบังคับขับขี่และการเกาะถนนสูงสุด ความปลอดภัยของคุณขึ้นอยู่กับระดับความลึกของร่องดอกยาง เพราะ

- ร่องดอกยางช่วยรีดน้ำที่อยู่ใต้ยาง ซึ่งช่วยรักษาความสามารถในการควบคุมการขับขี่เมื่อถนนเปียก

- ยิ่งความลึกของร่องดอกยางเหลือมากเท่าไหร่ ยางยิ่งสามารถรีดน้ำออกได้ และช่วยลดความเสี่ยงของการเหินน้ำ

- การยึดเกาะถนนของดอกยางมีผลต่อระยะเบรก